วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เบียร์...ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพนะ


เบียร์...ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพนะ



ดื่มเบียร์เพียงวันละแก้วก็ช่วยให้ผิวคุณสวยขึ้นด้วยนะ..เพราะเบียร์มีสารต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด มีวิตามินและเกลือแร่ ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อแข็งแรง

สำหรับคอเบียร์คงหูผึ่งเมื่อมีคนบอกว่า เบียร์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถึงอย่างไรก็ควรดื่มพอประมาณ แล้วเหตุใดฝรั่งจึงบอกว่าเบียร์ดีมีประโยชน์ เหตุผลก็คือเบียร์มีสารต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ เช่น สังกะสี แมกนีเซียม เหล็ก และแร่ธาตุจำเป็นซึ่งช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อแข็งแรง เหตุผลดีๆ ยังมีอีกมากมาย เช่น ป้องกันโรคหัวใจ จากการศึกษาของนักวิชาการพบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มเบียร์ 40-60% แต่ควรดื่มไม่เกินครึ่งลิตรต่อวัน

- ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์อัมพาต สารที่มีประโยชน์ในเบียร์สามารถช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตัน จึงช่วยป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

- ช่วยลดความดันโลหิต แพทย์ชาวฮอลแลนด์และจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดค้นพบว่า การดื่มเบียร์ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

- ป้องกันเบาหวาน ผู้ที่ดื่มเบียร์มีจำนวนน้อยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เหตุผลก็คือ เบียร์ทำให้ร่างกายสามารถปรับฮอร์โมนอินซูลินให้สมดุล

- ช่วยให้ความจำดี สมาคมโรคหัวใจในประเทศสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าเบียร์สามารถช่วยให้ความทรงจำดี นักดื่มเบียร์จึงไม่ค่อยเป็นโรคอัลไซเมอร์

- ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เบียร์ให้ผลดีต่อกระดูก สามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ แต่ได้ผลเฉพาะกับหนุ่มสาวเท่านั้น

- ช่วยให้อายุยืน จากการศึกษามากกว่า 50 สำนักพบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์วันละ 1-2 แก้ว มักจะมีอายุที่ยืนยาว เนื่องจากเบียร์มีสารปกป้องหัวใจ

- ป้องกันท้องร่วง โมเลกุลในเบียร์มีส่วนประกอบเหมือนกันกับกรดนมและน้ำส้มสายชู สารที่ว่านี้ขัดขวางเชื้อโรคในลำไส้ที่เป็นสาเหตุของท้องร่วงไม่ให้แพร่เชื้อจนท้องเสีย

- ต้านความเครียด นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Montreal ค้นพบว่าคนทำงานที่ได้ดื่มเบียร์บ้างเป็นครั้งคราวมีความเครียดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเบียร์

- ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและไต นักวิชาการจากเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ค้นพบว่า การดื่มเบียร์วันละหนึ่งขวดก็จะได้รับแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไตได้ถึง 40%

- ป้องกันโรคนอนไม่หลับ สารจากดอก Hops ในเบียร์เปรียบเสมือนยานอนหลับจากธรรมชาติ ช่วยให้ประสาทผ่อนคลาย ดังนั้น การดื่มเบียร์หนึ่งแก้วในตอนเย็นจึงเหมือนกับการกินยานอนหลับ

- ช่วยต้านมะเร็ง เบียร์มีสารโพลีฟีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันมะเร็ง โดยการดับจับอนุมูลอิสระตัวร้ายออกจากร่างกาย สารโพลีฟีนอยด์หลักก็คือ Xanthohumol ซึ่งมีข้อดีคือ ช่วยยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาการของมะเร็ง

- ช่วยให้ผิวสวย ในเบียร์มีวิตามินสูง เช่น Pantothenic Acid วิตามินบี 3 และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ ช่วยสร้างคอลลาเจนและเม็ดสี ผิวจึงเรียบเนียนและอ่อนนุ่ม

Mickey mouse

ดาวเคราะห์ดวงใหม่



ภาพจำลองระยะห่างของดาว WASP-33b กับดวงอาทิตย์ของมัน



ขนาดของดาว WASP-33b เมื่อเทียบกับขนาดของดาวพฤหัส (ซ้าย)



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wikimedia


เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล์ ของอังกฤษ รายงานว่า นักดาราศาสตร์พบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงใหม่ มีอุณหภูมิสูงถึง 3,200 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยพบมา

โดยดาวเคราะห์ดวงนี้ มีชื่อว่า WASP-33b หรือ HD15082 ถูกค้นพบเมื่อประมาณปีก่อน เป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่อยู่ห่างจากแกแล็กซี่แอนโดรมีด้า (แกแล็กซี่ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด) ออกไปเพียง 380 ปีแสง และมีขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะถึง 4.5 เท่า โคจรรอบดวงอาทิตย์ของมันที่มีอุณหภูมิสูงถึง 7,160 องศาเซลเซียสในระยะที่ใกล้มาก จึงทำให้บนพื้นผิวของมันมีความร้อนสูงถึง 3,200 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดตั้งแต่นักดาราศาสตร์เคยค้นพบมา และใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ของมันเพียง 29.5 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมาก หากเทียบกับดาวพุธซึ่งเป็นดาวที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในระบบสุริยะ ที่ต้องใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ถึง 88 วัน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ดาวเคราะห์ดวงเก่าที่นักดาราศาสตร์พบว่าเป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุด คือ ดาวเคราะห์ WASP-12b ในทางช้างเผือก ซึ่งมีอุณหภูมิ 2,300 องศาเซลเซียส โคจรรอบดวงอาทิตย์ของมันเพียง 1.1 วัน เรียกว่าความร้อนของมันยังถือเป็นน้องของดาว WASP-33b ที่ถูกค้นพบใหม่อยู่มาก เพราะมีอุณหภูมิต่างกันถึง 900 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ขณะที่นักดาราศาสตร์เชื่อว่า ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ยังคงมีดาวเคราะห์ที่ร้อนกว่านี้และมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ที่เร็วกว่านี้อย่างแน่นอน อยู่ที่ว่ามันจะถูกค้นพบเมื่อไรเท่านั้นเอง